การเปิดแผลเพื่อวางซิลิโคน

โดยทั่วไป ศัลยแพทย์จะผ่าตัดใส่ถุงซิลิโคนเข้าไปในเต้านมผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่ง ดังนี้

1.ใต้รักแร้สองข้าง เป็นตำแหน่งที่นิยมผ่าตัดมากที่สุดเพราะสามารถซ่อนรอยแผลผ่าตัดได้ดี โอกาสจะเกิดปัญหา เรื่องพังผืดมารัดตัวถุงซิลิโคนจะน้อยลง
2.ใต้ราวนม เป็นอีกหนึ่งบริเวณที่นิยมมาก สามารถทำได้ง่ายกว่าและการวางตำแหน่งของซิลิโคนมีความคลาดเคลื่อนน้อยกว่า
โดยจะมีแผลผ่าตัดใต้ราวนมยาวประมาณ 3-4 เซนติเมตร 
3.บริเวณปานนม เหมาะทำในคนที่หน้าอกหย่อนคล้อยโดยจะเสริมหน้าอกไปพร้อมกับยกกระชับหน้าอก

ส่วนความลึกของการวางซิลิโคนสามารถวางได้ 3 ระดับ คือ 

1. วางใต้กล้ามเนื้อ” เหมาะกับคนที่ผิวหนังบาง ไม่ค่อยมีเนื้อนม หลังเสริมจะได้เนินอกสวยลาดเอียงเป็นธรรมชาติ 
2. วางใต้ตัวเนื้อนม ใช้ในรายที่มีเนื้อนมหนาพอสมควรและหน้าอกคล้อยไม่มาก หลังเสริมเต้านมจะชิดกันดูสวยงามขึ้น
3. วางบางส่วนอยู่เหนือกล้ามเนื้อและบางส่วนใต้กล้ามเนื้อ
 
การดูแลก่อนการศัลยกรรมเสริมหน้าอก

1. ให้แพทย์ตรวจร่างกายก่อนศัลยกรรมเสริมหน้าอกเพื่อเช็คว่าร่างกายพร้อมสำหรับการผ่าตัด
2.งดน้ำและอาหารเป็นเวลา 6 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด
3.งดแอลกอฮอล์เด็ดขาด เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน
4.งดการสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์
5.งดยาแก้ปวด วิตามิน อาหารเสริมต่างๆ หรือยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อลดอาการบวมและอาการติดเชื้อหลังผ่าตัด

การดูแลหลังจากการศัลยกรรมเสริมหน้าอก

1.ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
2.ทำความสะอาดร่างกายโดยการเช็ดตัว หลังแผลแห้งสนิท สามารถอาบน้ำได้ตามปกติ
3.การยกของหนักควรหลีกเลี่ยงในช่วง 1 เดือนแรก
4.พันผ้าพันแผลตามที่แพทย์ได้พันให้ในระดับที่หายใจออกเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์
5.งดใส่ยกทรงที่มีโครงเหล็ก เป็นเวลา 2 สัปดาห์ อาจจะเปลี่ยนเป็นยกทรงแบบ Sport Bra ได้
6.นวดหน้าอกตามที่แพทย์แนะนำ ต้องนวดต่อเนื่องทุกวันวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 20-30 นาที เป็นเวลา 6 เดือน หลังจาก 6 เดือนไปแล้วนวดวันเว้นวัน
7.เข้าพบแพทย์ตามใบนัด หากพบอาการผิดปกติใดๆควรแจ้งแพทย์ให้ทราบทันที

ผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนหลังการศัลยกรรมหน้าอก

1.ระวังการมีเลือดสะสมบริเวณแผลผ่าตัด จนทำให้แผลเกิดอาการบวมและเจ็บปวด อาการแบบนี้มักเกิดขึ้นหลังการผ่าตัดไม่นาน หรืออาจเกิดได้หากเต้านมได้รับบาดเจ็บ ซึ่งอาจจะต้องได้รับการรักษาด้วยการใส่ท่อระบายเลือด
2..ผิวบริเวณหน้าอกอาจเปลี่ยนเป็นสีแดงได้ เนื่องจากเกิดการฟกช้ำเพราะมีเลือดออกระหว่างผ่าตัด
3.มีความรู้สึกที่บริเวณหัวนม หรือเต้านมลดลง ซึ่งอาการแบบนี้อาจเกิดขึ้นแค่ชั่วคราวหรือตลอดไป ซึ่งอาจส่งผลต่อการตอบสนองทางเพศได้ด้วย
4.เกิดผังผืดหุ้มบริเวณรอบๆ ซิลิโคน ทำให้หน้าอกแข็งและรู้สึกแน่นหน้าอก