♥ ข้อดี ข้อเสีย ของการเสริมหน้าผากแบบต่างๆ
การเสริมหน้าผากกำลังได้รับความสนใจทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยเฉพาะผู้ที่มีหน้าผากไม่สวย หน้าผากบุ๋ม หน้าผากไม่เรียบ หน้าผากที่ไม่โหนกนูน ทำให้ใบหน้าไม่มีมิติ โหงวเฮ้งไม่ดี

ปัจจุบันการเสริมหน้าผากที่นิยมใช้กันในทางการแพทย์ มีด้วยกัน 3 เทคนิคได้แก่
- การเสริมหน้าผากด้วยการฉีดสารเติมเต็ม (ฟิลเลอร์)
- การเสริมหน้าผากด้วยการปลูกถ่ายไขมันจากร่างกาย
- การเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน ซึ่งแต่ละเทคนิค จะมีข้อดี ข้อเสีย และข้อจำกัดที่แตกต่างกันออกไป ดังต่อไปนี้
1. การเสริมหน้าผากด้วยการฉีดสารเติมเต็ม (ฟิลเลอร์) การเสริมหน้าผากด้วยการฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์ คือ การฉีดสารไฮยาลูโรนิค เข้าไปที่บริเวณหน้าผาก เพื่อทำให้หน้าผากโหนกนูน โดยฟิลเลอร์จะสามารถสลายตัวไปได้เองตามธรรมชาติประมาณ 1-2 ปีหลังฉีด ขึ้นอยู่กับชนิดฟิลเลอร์ที่ใช้
ข้อดี
- ไม่มีแผล ไม่ต้องฟักพื้น
- การบวมช้ำน้อยหรืออาจไม่มีเลย
- รูปทรงเป็นธรรมชาติ
- สามารถเติมเต็มหรือปรับแต่งได้เรื่อยๆ
- สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ หากไม่ชอบ
ข้อเสีย
อยู่ได้ไม่นาน ต้องฉีดซ้ำบ่อยๆ
ราคาสูง ใช้ปริมาณเยอะ
มีโอกาสที่ฟิลเลอร์จะไหลหรือเสียรูปทรง
อาจเกิดปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อนได้
มีความเสี่ยงในการอุดตันเส้นเลือดที่ไม่เลี้ยงอวัยวะสำคัญได้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องกระทำการโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ
2. การเสริมหน้าผากด้วยการปลูกถ่ายไขมันจากร่างกาย Fat Transfer
หรือ การปลูกถ่ายไขมัน เป็นการดูดเอาไขมันส่วนเกินจากที่อื่นๆ มาเติมเต็มบริเวณหน้าผาก หลักการคล้ายกับการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ แพทย์จะคัดเลือกเซลล์ไขมันที่ดีที่สุด โดยนำไปคัดแยกออกจากน้ำเหลืองและเลือดออก ก่อนจะนำไปปลูกถ่ายหรือฉีดบริเวณหน้าผาก ถือได้ว่าเป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูง
ข้อดี
- หลังทำเสร็จแล้วกลับบ้านได้ทันที
- บวมน้อยหรืออาจไม่บวมเลย
- แผลเล็ก ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน
- รูปทรงหน้าผากเป็นธรรมชาติ
- เซลล์ไขมันบางบริเวณ จะมีส่วนผสมของสเต็มเซลล์ ช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูอวบอิ่มและกระจ่างใส
- ช่วยลดไขมันส่วนเกินในบริเวณที่ดูดออกด้วย
ข้อเสีย - ให้ผลลัพธ์ที่ไม่คงทนถาวร
- ไม่เหมาะกับคนผอมและอายุมาก เพราะจะได้ไขมันที่ไม่มีประสิทธิภาพ
- เปอร์เซ็นต์การอยู่รอดของไขมันอาจลดลง ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนอาจมีการบวมช้ำหรือเป็นคลื่นเกิดขึ้นบริเวณที่ดูดไขมันได้

3. การเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน เป็นการศัลยกรรมที่ให้ผลลัพธ์ที่คงทน และถาวรมากกว่าเทคนิคอื่นๆ สามารถปรับความความโค้งนูนได้ง่ายกว่า เนื่องจากสามารถเลือกขนาด และ ปรับแต่งซิลิโคนได้
ข้อดี
- มีความคงรูปและคงทนแบบถาวร
- ปรับรูปทรงให้มีความเป็นธรรมชาติ โค้งมนรับกับใบหน้าได้ง่าย
- ผิวหนังบริเวณที่ทำจะมีความเรียบ นูน สวย ไม่เป็นคลื่น- มีความปลอดภัย ไม่ส่งผลต่อเส้นประสาท- ค่าใช้จ่ายไม่สูง เมื่อประเมินจากระยะเวลาการใช้งาน
ข้อเสีย - หากเลือกซิลิโคนไม่เหมาะสมกับใบหน้า เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ อาจเห็นขอบซิลิโคน โดยเฉพาะในรายที่มีเนื้อหน้าผากน้อย
- หากเลือกความโหนกนูนมากเกินไป อาจดูไม่เป็นธรรมชาติได้
- มีรอยแผลจากการผ่าตัดที่บริเวณหนังศีรษะ แต่อาจสังเกตไม่เห็น จากการที่เส้นผมบดบัง
- ในขั้นตอนการเลาะเนื้อเยื่อบริเวณหน้าผาก อาจทำให้เกิดการบวมช้ำหลังผ่าตัดได้เช่นเดียวกับการผ่าตัดชนิดอื่นๆ
การเสริมหน้าผากไม่ว่าจะด้วยเทคนิคใดก็ตาม มีทั้งข้อดี – ข้อเสีย และ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ จึงควรต้องเลือกสถานบริการที่มีความน่าเชื่อถือ มีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อรับการวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ♥
อ่านต่อ ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากดีไหม เทียบกับ ศัลยกรรมเสริมหน้าผาก